ทำได้น่ากลัวแน่! การบ้าน4ข้อที่รังนิคต้องมาแก้ไขให้แมนยู 01.12.201
เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ราล์ฟ รังนิค จะเข้ามากุมบังเหียน แมนฯ ยูไนเต็ด ไปจนจบฤดูกาลนี้ ก่อนจะปรับบทบาทเป็นที่ปรึกษาของสโมสรต่อไป หลังจากช่วงที่ผ่านสโมสรต้องใช้ ไมเคิ่ล คาร์ริค ขึ้นมานั่งกุนซือขัดตาทัพแทน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง
แน่นอนว่าการเข้ามาของกุนซือชาวเยอรมันวัย 63 ปีนั้นมีหลายเรื่องที่ต้องมาแก้ไขให้กับ แมนยู “ปีศาจแดง” ชุดนี้ทื่ยังคงมีจุดอ่อนอยู่หลายเรื่องเพื่อนำทีมกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง
และนี่คือการบเาน 4 ข้อที่ รังนิค ต้องมาแก้ไขที่ แมนฯ ยูไนเต็ด
1.ตำแหน่งของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
แม้ว่าสตาร์ชาวโปรตุกีสจะกระหน่ำไปแล้วถึง 10 ประตูในซีซั่นนี้ แต่กระนั้นมันก็เหมือนเป็นดาบสองคมเมื่อการกลับมาของเขาทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เกิดความไม่สมดุลมากขึ้นในแนวรุก
ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลนี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จัดการส่ง “ซีอาร์เซเว่น” รับบทหัวหอกตัวเป้าทันทีและกลายเป็นความหวังอันดับหนึ่งในการผลิตสกอร์ โดยได้ลงเล่นแทน เอดินสัน คาวานี่ เจ้าของตำแหน่งเมื่อซีซั่นที่แล้ว
ขณะที่เรื่องน่ากังวลในการมาของ รังนิค นั้นคงหนีไม่พ้นการเล่นในสไตล์ “เกเก้นเพรสซิ่ง” นั่นคือการที่ให้ผู้เล่นทุกคนในทีมช่วยกันไล่ชิงบอลกลับจากทีมฝ่ายตรงข้ามให้ได้เร็วที่สุด เมื่อผู้เล่นเกมรุกฝั่งตนทำเสียบอลไป ซึ่งการเล่นแบบนี้อาจไม่ตรงกับสไตล์ของ โรนัลโด้ ที่ไม่ใช่ผู้เล่นที่ขยันไล่บอลอยู่แล้ว ทำให้ต้องตามดูกันต่อไปว่า รังนิค จะให้เขาลงตรงไหน
2.เรียกฟอร์ม บรูโน่ กลับมา
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในซีซั่นนี้ผลงานของมิดฟิลด์ชาวโปรตุกีสตกลงไปอย่างน่าใจหายสวนทางกับในช่วง 18 เดือนแรกที่ย้ายมาในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ที่เจ้าตัวกลายเป็นกองกลางที่โดดเด่นมากที่สุดในยุโรปด้วยสถิติอันน่าทึ่งในเรื่องการทำประตูและแอสซิสต์
นอกจากนี้ รังนิค จะต้องมาปรับให้ บรูโน่ เล่นให้เข้ากับ โรนัลโด้ มากขึ้น หลังจากซีซั่นนี้ทั้งคู่ยังไม่มีจังหวะประสานงานกันมากเท่าที่ควร ซึ่งทำให้ดูเหมือนกับการเล่นให้ทีมชาติโปรตุเกส และแน่นอนหาก รังนิค ปรับในจุดนี้ได้เชื่อว่าเกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะกลับมามีสีสันมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
3.หาตำแหน่งให้ ฟาน เดอ เบ็ค
ก่อนหน้าที่ดาวเตะวัย 24 ปี จะมาย้ายมาเล่นในโรงละครแห่งความฝันนั้นเขาถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งในยุโรปจากการโชว์ฟอร์มโดดเด่นกับ อาแจ็กซ์ จนกลายเป็นแข้งเนื้อหอมที่หลายทีมชั้นนำต้องการดึงตัวไปเสริมทัพ
อย่างไรก็ตามงมิดฟิลด์ชาวดัตช์ไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งภายในทีมได้เลย โดยในซีซั่นนี้เจ้าตัวได้ลงเล่น 4 นัดในพรีเมียร์ลีกและทำได้ 1 ประตู แต่ก็ต้องเริ่มด้วยการเป็นตัวสำรองทั้งสิ้นท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากแฟนบอลหลายๆคนที่อยากให้ ฟาน เดอ เบ็ค ได้ลงเล่นมากกว่านี้ หลังมักจะลงมาทำผลงานได้ดี
การมาของ รังนิค นั้นอาจจะเข้ามาสร้างจุดเปลี่ยนให้กับ ฟาน เดอ เบ็ค กลับมาเรียกฟอร์มเก่งได้อีกครั้งเหมือนสมัยอยู่กับ อาแจ็กซ์ และต้องรอลุ้นว่าเขาจะได้ลงเล่นในบทบาทไหน หลังจากเจ้าตัวสามารถเล่นได้แทบทุกตำแหน่งในแดนกลาง
4.เรียกศักยภาพของ เจดอน ซานโช่
ผลงานของ ซานโช่ เริ่มจะเรียกฟอร์มเก่งออกมาได้ดีขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ย้ายมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัว 73 ล้านปอนด์ เมื่อช่วงซัมเมอรืที่ผ่านมา หลังเพิ่งทำประตูมาสองนัดติดต่อกันรวมทุกรายการในยุคของ ไมเคิ่ล คาร์ริค ซึ่งจะเห็นได้ว่าตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขานั้นคือการเล่นเป็นตัวริมเส้นฝั่งขวา
อย่างไรก็ดีการมาของ รังนิค อาจจะช่วยให้ผลงานของ ซานโช่ ไปไกลได้มากกว่านี้ หลังจากในช่วงเวลาที่กุนซือชาวเยอรมันทำงานกับ ไลป์ซิก ในบุนเดสลีกานั้น เขาได้เห็นฟอร์มการเล่นของ ซานโช่ อยู่บ่อยครั้งในการคุมทีมเจอกับ ดอร์ทมุนด์ ซึ่งทำให้เขาน่าจะรู้วิธีในการดึงศักยภาพของปีกทีมชาติอังกฤษออกมาให้ดีที่สุด