วันเปิดตัวสุดตราตรึง #CR7 #เปิดตัวโรนัลโด้ 12/09/2021
อย่าว่าแต่แฟนแมนฯยูไนเต็ดเลยครับ….แฟนบอลทั่วไปก็อยากเห็นการเปิดตัวของ คริสเตียโน โรนัลโด ในการคืนถิ่นอีกครั้ง
เรื่องกระแสการต้อนรับคงไม่ต้องพูดถึง…หลั่งไหลมาไม่ขาดสาย แมนยู
ความรู้สึกของแฟนบอลผีแดงเวลานี้ก็ดูฮึกเหิม มีพลังขึ้นมา
น้าลูกอม ยังบอกว่า “นักเตะผี ไม่ต้องแอบซ่อนตัวเองอีกแล้ว มีโรนัลโด มาช่วยเพิ่มความมั่นใจ” อันนี้เหมือนจะบอกความนัยอะไรบางอย่าง
ส่วนเรื่องของฟุตบอลนี่แหละ….จะเดินไปแบบไหนในเชิงแทกติก
ผมเองเฝ้ารอดูว่าเมื่อเขากลับมาแล้วจะเล่นตรงไหนและอย่างไร
มันคืองานท้าทาย โซลชา อย่างยิ่ง กับทีมที่เขาพยายามสร้างพื้นฐานขึ้นมาในสองปี แต่วันนี้แผนการทำงานของเขาจะปรับหรือเปลี่ยนไปหรือไม่ เมื่อได้ โรนัลโด เข้ามาอยู่ในทีม ในแบบที่ไม่ได้อยู่ในแผนงานตั้งแต่แรก
ที่สำคัญการมาของ โรนัลโด นั้นในเบื้องต้นเรามองกันว่าน่าจะ “ช่วย” พัฒนาและส่งเสริมนักเตะรุ่นหนุ่มในทีม จากประสบการณ์และความสามารถของเขา โดยเฉพาะการยิงประตู แต่มันก็เหมือนดาบสองคม เพื่อนร่วมทีมเล่น “ทัน” โรนัลโด หรือไม่ แล้วเขาจะช่วยได้จริงๆหรือเปล่า
ถ้างั้นมาถึงเรื่องตำแหน่งและแทกติกของทีมเมื่อมี โรนัลโด มาแล้ว
ถ้าถามว่า…โรนัลโด ควรเล่นระบบไหน ก็มีทัศนะทีหลากหลาย
บ้างก็บอกว่า โรนัลโด อายุเยอะแล้ว ไม่ควรเล่นปีก กระชากลากเลื้อย
ควรเล่นเบอร์9 ดีสุดใกล้เขตโทษ มีประโยชน์กว่า
จริงๆ เล่นปีกก็ไม่ได้ห่างเขตโทษเท่าไหร่นะ จะว่าไป เล่นกับทีมชาติโปรตุเกสก็อยู่ด้านซ้าย ในระบบ 4-3-3 ยิงประตูมากกว่าศูนย์หน้าอีกมากมายในยูโร ด้วยเพราะ โรนัลโด จะเล่นตรงไหนเขาก็มีส่วนในการยิงประตูได้อยู่ตลอดเวลา เพราะเขาอ่านสถานการณ์ อ่านเกมได้ดี พาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ได้ยิงประตู นั่นคือในเขต ส่วนการเล่นด้านข้าง ประโยชน์คือการตัดเข้าในแล้วยิงจากนอกเขตหรือเรียกฟาวล์ ได้ ก็เป็นอีกมุมของ แทกติก
เรื่องตำแหน่งของ โด้ ก็ขึ้นกับ แทกติกของ โซลชา และสิ่งที่ โด้ เล่นกับยูเวนตุส ค่อนข้างชัดเจนกับการเป็นดาวซัลโวในสามปีที่ผ่านมา
ส่วนคำถามที่เราตั้งคำถามว่า…โซลชา ปรับตัวตาม โด้ หรือ โด้ ต้องปรับตามแทกติกโซลชานั้น ถ้าดูจากข้อมูลและวิธีการเล่นในสามปีล่าสุดกับ ยูเวนตุส น่าจะพอได้ข้อสรุปเบื้องต้น
คราวนี้มาดูแทกติกพื้นฐานที่ โซลชา ใช้มาสองปี โดยเฉพาะปีก่อน และดูระบบที่ โรนัลโด เล่นกับ ม้าลายในสามปีที่ผ่านมากับ โค้ช สามคน
ระบบ 4-2-3-1
ปีที่แล้ว โซลชา ใช้ระบบนี้จำนวนทั้งสิ้น 46 นัดทั้ง แยกออกเป็นพรีเมียร์ลีก 34 นัด, แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 นัด ยูโรปา ลีก 9 นัด หากรวมบอลถ้วยลีกคัพและเอฟเอ คัพด้วยก็บวกเพิ่มอีก 7 นัด (53 นัด)
ระบบนี้ก็มีหน่วยรุกด้านข้างสองฝั่ง กลางตัวรุกคือ บรูโน แฟร์นานดส์ และหน้าเป้าหนึ่งตัว
มีผลงานหน้าเป้าของ 4 นักเตะแมนฯยูฯ ก่อนนะครับ (เฉพาะพรีเมียร์ลีก)
หน้าเป้าที่ โซลชาใช้เมื่อซีซั่นที่แล้ว 4 คนครับ
มาร์กซิยาล, กาวานี, แรชฟอร์ด, กรีนวูด ลองดูผลงานกันครับ
มาร์กซิยาล 16 นัด ยิง 4 แอสซิสต์ 5 ดูตัวเลขก็ถือว่า “ล้มเหลว” อย่างสิ้นเชิงกับการจับ มาร์กซิยาล ไปเล่นตำแหน่งนี้
กาวานี 13 นัด ตัวจริง สำรอง13 ยิง 10 แอสซิสต์ 3 ลงน้อยกว่า ยิงมากกว่า มีส่วนกับประตูให้แมนฯยูฯ 13 ลูก มากกว่า มาร์กซิยาล แต่ก็ยกประโยชน์ให้เพราะ 10 นัดสุดท้าย มาร์กซิยาล เจ็บพักยาว
แรชฟอร์ด 9 นัด ยิง1 จ่าย 1 ดูน่าผิดหวังมากกับกองหน้าทีมเยาวชนแต่ขึ้นชุดใหญ่โดนจับเล่นปีก แต่เขากลับไปทำประตูได้มากในตำแหน่งปีกซ้ายครับ
กรีนวูด กับตำแหน่งหน้าเป้า 7 นัด ยิง 1 ลูก เล่นหน้าต่ำ 1 นัดยิง 1 ลูก แต่พอเล่นปีกขวายิงได้มากกว่าชัดเจน
โซลชา ไม่มีหน้าเป้าที่ไว้ใจได้แบบตัวหลัก เอาแบบดีสุดคือ กาวานี แต่เขาก็ไม่ได้ลงเล่นต่อเนื่อง ด้วยสภาพร่างกายและการมาร่วมทีมที่ช้าในช่วงออกตัวซีซั่นก่อน แต่ด้วยความเป็นหน้าเป้าธรรมชาติ เขาดีกว่าหลายคนที่ โซลชา สลับมาเล่นในระบบหน้าเป้าของเขา
โด้ กับ “ม้าลาย
สามปีที่ผ่านมาที่ โรนัลโด เล่นกับยูเวนตุส กับโค้ช แมกส์ อัลเลกรี, เมาริซิโอ ซาร์รี และ อันเดรีย ปีร์โล เขาอยู่ในระบบหลักๆของโค้ชสามคนนี้ทั้งแบบ หน้าสาม และ หน้าคู่ ในแบบ4-3-3, 4-3-1-2 คล้ายๆ 4-4-2 ไดมอนด์ โดยแยกเป็นซีซั่นเลยนะครับ เพื่อให้เห็นภาพการยืนตำแหน่งของ โรนัลโด้
**สถิติที่คัดมาเฉพาะฟุตบอล กัลโช เซเรีย อา เท่านั้น ไม่รวมถ้วยอื่น**
ซีซั่น 2018-19 ;
โค้ช… แมกส์ อัลเลกรี
ระบบหลัก…. 4-3-3 ระบบรอง 4-4-2, 4-2-3-1
ตำแหน่งโรนัลโด :
เล่นปีกซ้าย 17 เกม ยิง 13 แอสซิสต์ 5
เล่นศูนย์หน้า 14 เกม ยิง 8 แอสซิสต์ 4
ยิงในกัลโช 21 ลูก (รวมทุกถ้วย28ลูก)
ซีซั่น 2019-20
โค้ช …. เมาริซิโอ ซาร์รี
ระบบหลัก….4-3-3 ระบบรอง 4-3-1-2
ตำแหน่ง โรนัลโด :
เล่นปีกซ้าย 21 เกม ยิง 18 แอสซิสต์ 6
เล่นศูนย์หน้า 12 เกม ยิง 13 แอสซิสต์ 2
ยิงในกัลโช 31 ลูก (รวมทุกถ้วย 37)
ซีซั่น 2020-21
โค้ช…. อันเดรีย ปีร์โล
ระบบหลัก; 4-4-2,3-5-2
ตำแหน่งโรนัลโด้ :
เล่นปีกซ้าย 1 เกม ยิง 1
เล่นศูนย์หน้า 32เกม ยิง 28 แอสซิสต์ 3
ยิงในกัลโช 29 ลูก (รวมทุกถ้วย 36 ลูก)
ช่วงสองซีซั่นแรก เขายืนทางซ้ายเป็นหลัก แต่ถ้าต้องเล่นหน้าคู่ โรนัลโด ได้เล่นคู่กับ อีกวาอิน , มานด์ซูคิช ,เปาโล ดิบาลา ส่วนตัวเลขฤดูกาลล่าสุดก่อนย้ายมาแมนฯยูฯ คือการเล่น “หน้าเป้า” ชัดเจนโดยเขามีพาร์ตเนอร์สลับๆกันไปไม่ว่าจะเป็น อัลบาโร โมราตา, เปาโล ดีบาลา (บ่อยสุด) กระทั่ง คูลูเซฟสกี้
ดังนั้น “ตำแหน่ง” ของโรนัลโด ไม่ว่าจะยืนปีกซ้ายหรือว่าศูนย์หน้า ในระบบ 4-3-3,4-4-2 หรือ 4-3-2-1 เขาก็ยังยิงประตูได้ต่อเนื่องเหมือนเดิม นี่คือจุดที่สำคัญอย่างยิ่ง นั่นอาจทำให้ โซลชา ไม่จำเป็นต้องคิดมากกับการหา “ตำแหน่ง” ที่ดีสุดให้ โรนัลโด เพราะเขาคือเครื่องจักรถล่มประตู ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนในแนวรุก
แล้วการเปิดตัวเกมแรกพอมองเห็นอะไรบ้างจากวิธีการเล่น
1 โซลชา ให้เล่นเบอร์ 9 ในระบบ 4-2-3-1 ของเขา
2 ยังไม่เห็นอะไรชัดเจนนัก ในแง่วิธีการเล่นระหว่าง โรนัลโด กับ เพื่อนแนวรุกด้วยกัน
นอกจากผลกระทบในการ “ยิงประตู” ของทีม
3 เมื่อโรนัลโด “ยิงประตูได้” เพื่อนๆก็มั่นใจตาม
ดูไทม์ไลน์ ของเขาใน 45 นาทีแรกนะครับ
น.4 บรูโน ชิพให้เกือบหลุดเดี่ยว ติดหัวกองหลังนิว
น.8 ยิงครั้งแรก โดนไม่ดี ออก
น.10 กระชากเข้าไปยิง เข้าข้างตาข่าย
น.22 ยิงติดกองหลัง บลอคออกมา เข้าทาง แมกซิแม็ง ได้สวนกลับ
น.36 บรูโน จิ้มให้ โด โดน ลาสแซล กระแทก
น.38 กระชากจากขวา ว่างๆ ก่อนยิงติดบล้อค
น.45+1 ซ้ำลูกยิง กรีนวูด เข้าประตูไป
เขาใช้เวลา 45+1 ในการยิงประตูแรกในการกลับคืนโรงละครอีกครั้ง
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด คือเหยื่ออันโอชะของเขาสมัยเล่นให้แมนฯยูไนเต็ด รอบแรก
เที่ยวนี้แปซ้ำลูกยิง กรีนวูด ที่ วูดแมน ประตูมือสามของ สาลิกาดง พยายามรับแต่บอลปลิ้นไปเข้าทาง โรนัลโด พอดี สรุปครึ่งแรกสัมผัสบอล 30 ครั้ง สปรินต์ 7 เที่ยว ยิง 5 เข้ากรอบ 1 เป็น 1 ประตู
ครึ่งหลังไม่ต้องตามดูไทม์ไลน์ละครับ เพราะทุกอย่างมันดูเข้าทาง โรนัลโด หมดละ
แง่ combination play ระหว่างโรนัลโด กับแนวรุกทั้งสามคน ยังมีไม่มาก นอกจาก บรูโน ที่เล่นบอลกันอยู่สองสามจังหวะ จุดนี้คงไม่มีอะไรต้องรู้สึกวิตกกังวลเพราะมันพึ่งเกมแรกเองครับ จังหวะจะโคน ก็ต้องปรับกันเพราะนี่คือหน้าเป้าคนใหม่ของทีม ไม่ใช่ กาวานี, กรีนวูด, แรชฟอร์ด, มาร์กซิยาล …ที่เล่นด้วยกันมาก่อน
นีคือ โรนัลโด โดยความพิเศษของเขาคือ…
ทางบอลและการวิ่งทำทาง การเคลื่อนที่ของเขาที่ได้เปรียบเสมอ
ประตู 2-1 ชัดเจนครับ สิ่งที่เห็นคือการเคลื่อนที่ของเขา เขาวิ่งทำทางเมื่อ ลุค ชอว์ พาบอลทะลุขึ้นมา โรนัลโด เห็นช่องก่อนออกตัว พอชอว์ ให้ เขาจับบอลได้เข้าเขตโทษก่อนสับไกยิงลอดขา วูดแมน ตุงตาข่าย
นี่คือสิ่งที่เพื่อนร่วมทีมต้องอ่านการเคลื่อนที่ของเขาให้ทัน
จากประตูที่ 118 เขายิงฟรีคิกใส่ แมนฯซิตี้ เมื่อ 10 พ.ค. 2009 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ผ่านไป 12 ปีกลับมาลงสนามเกมแรกที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เขายิงประตูที่ 119 และ 120 ให้แมนฯยูไนเต็ด
ต่อหน้าเซอร์ อเลกส์ เฟอร์กูสัน,อฟราม เกลเซอร์, เอ็ด วูดเวิร์ด, ไรอัน กิ๊กส์กระทั่ง แกรี โอลด์แมน ดาราฮอลลีวูดยังมาดูเกมนี้….รวมทั้งแฟนบอลทั่วโลก
ที่เห็นชัดๆ จากผลกระทบเพียงแค่เกมแรกนั้นคือเรื่อง “การยิงประตู”
มันดูเหมือนว่าเพื่อนร่วมทีมได้พลังเสริมจากการปรากฏกายของ คริสเตียโน โรนัลโด
หลังจากนำ 2-1 การรุกเดินอย่างสนุกและดุดัน ดูไหลลื่น แล้ว “ประตู” ก็มา
บรูโน ยิงเต็มข้อจากนอกเขตโทษสุดมั่นใจ, เจสซี ลินการ์ด เปลี่ยนลงมาก็ยิงได้
ส่งผลให้ทีมถล่มนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 4-1
แหม….เหมือนเขียนบทให้ โรนัลโด ยังไงยังงั้น
เพื่อให้การเปิดตัว #CR7 ออกมาดูแกรนด์เหลือเกิน
