เปิดตัวสามทีมเต็ง 15/08/2021

welcome back พรีเมียร์ลีก 2021-22 ซีซั่นที่มาพร้อมกับแฟนบอลเต็มสนาม

บรรยากาศ คึกคัก สนุกสนาน เสียงเชียร์​เร่งเร้า โห่ฮา ทำให้ความรู้สึกของเรามันพลุ้งพล่าน เลือดสูบฉีด…คิดดูขนาดเรากองเชียร์ ยังขนาดนี้ แล้วนักเตะที่ลงสนามจะขนาดไหนกับการมีแฟนบอลเข้ามาหนุนหลังพวกเขา

อย่างที่ทราบๆกัน  football without FAN is nothing

วันนี้ในฐานะ pundit ของ ทรูวิชันส์ ผมเกาะติดสามทีมเต็งที่ออกจอวันเดียวกัน

หัวค่ำ แมนฯยูไนเต็ด ถล่ม ลีดส์​เละเทะ 5-1  / สามทุ่มเชลซีกินนิ่มๆ พาเลซ 3-0  /   ปิดท้ายด้วย นอริช 0- 3 ลิเวอร์พูล

ว่ากันที่คู่แรก ผีแดง โชว์ฟอร์มต่อหน้าแฟนผีอย่างเทพ 

มันเกิดอะไรขึ้นในเกมแรกที่โรงละครที่พวกเขาชนะอย่างสวยงาม

 1 ระบบ 4-4-2 ไดมอนด์

การจัดตัวของ “น้าลูกอม” ก่อนลง 4-2-3-1 แต่พอเล่นไปสัก 20 นาที การยืนตำแหน่งปรับเป็น 4-4-2 ไดมอนด์ กรีนวูด กับ เจมส์​ จะเป็นตัวหน้าคู่โดย บรูโน่ แฟร์นันดส์​ สอดขึ้นเป็นกลางเชิงรุก ป๊อกบา ทางซ้าย แม็คโทมิเนย์ ขวา เฟร็ด คือตัวกลางตัวรับ นั่นทำให้แมนฯยูไนเต็ด ได้ประตูแรก จากจังหวะที่ กรีนวูด และ เจมส์ วิ่งพากองหลังเปิดทางให้พื้นที่ว่างเกิดขึ้น แล้ว บรูโน่ สอดเข้าไป ในจังหวะที่เขาอ่านเกมของ ป๊อกบา ออกว่างให้บอลจังหวะเดียวแน่นอน นั่นคือประตูแรกของเกม และถ้าดูประตูที่ บรูโน่ กดแฮทริก มาจากการเคลื่อนที่ของเขาในฐานะมิดฟิลด์ตัวรุกในระบบ 4-4-2 ที่ได้กองหน้า ช่วยเปิดทางให้

2 แดนกลางผีชนะ

สก็อต แม็คโทมิเนย์, ​เฟร็ด , ป๊อกบา ตัดเกมลีดส์​ที่ไม่มี คัลวิน ฟิลิปส์ แต่ใช้ โรบิน คอช เล่นพร้อมกันกับ มาเตอุส คลิช โดยมีริมเส้นคือ แฮร์ริสัน กับ ราฟินญ่า ตั้งแต่ครึ่งแรกจนถึงช่วงสกอร์ 3-1 แดนกลางแมนฯยูฯ​ แย่งบอลได้ดี แม้เสียบอลให้ลีดส์​แต่ พวกเขาก็ช่วยกันบีบพื้นที่เอาบอลคืนกลับมา ที่สำคัญหลายจังหวะแย่งได้ บอลเปลี่ยนเป็นแดนสามเร็วทันที

จะว่าไปครึ่งแรกกลางแมนฯยูฯ เสียบอลบ่อยแต่ก็ไม่มีผลกระทบมาก เพราะกองหลังก็ช่วยบีบพื้นที่ได้ดี ทำให้ไม่เสียหายเท่ากับที่ ลีดส์ เวลาเสียบอลแดนกลางแล้วโดนแมนฯยูฯ ผ่านบอลทะลุถึงแดนสามเร็วทันที

3 ครึ่งหลังผียิงเร็ว

สองประตูสำคัญ ของแมนฯยูไนเต็ด เกิดขึ้นในช่วงเวลา สามนาที 13 วินาที น. 52-54 ระหว่างประตูนำ 2-1,3-1 ตรงนี้เท่ากับฆ่าเกมของลีดส์​ทันที จากลูกยิงสุดคมของ กรีนวูด และบรูโน่ ไม่ถึงสามนาที สองลูก ตรงนี้มีส่วนทำให้เกมของลีดส์ ดูยวบไปเลย ยิ่งเดินหน้าบุกยิ่งโดนง่ายๆ เพราะลูก 2-1 พวกเขาก็โดนจังหวะ ป๊อกบา จ่ายจากแดนตัวเองให้ กรีนวูดหลุดเดี่ยว

 4 บรูโน่-ป๊อกบา “เซ้นส์ทันกัน”

สองคนนี้มีส่วนในการพิฆาตลีดส์ ชัดเจน คนหนึ่งวิ่งทำทาง อีกคนรอจังหวะจ่ายและปล่อยบอล ประตูแรก ประตูที่สาม ชัดเจน สองคนนี้เข้าใจเกมการเล่นกันได้ดี และเป็นสองคนที่ทำให้ ลีดส์ ยูไนเต็ดต้องเสียประตูและแพ้ขาดตั้งแต่หนึ่งชั่วโมงของเกม

5 ป๊อกบา โชว์ของ 

4 แอสซิสต์ สูงสุดในเกมเดียวกันคนแรกของแมนฯยูไนเต็ด ทั้งที่ปีก่อน ทั้งซีซั่น ป๊อกบา แอสซิสต์ แค่ 3 ลูกเท่านั้น เกมนี้ ให้บอลแต่ละจังหวะแม่น น้ำหนัก เป๊ะ ตั้งแต่ลูกเบิ้ลให้ บรูโน่, จ่ายตัดหลังให้ กรีนวูดวิ่ง จ่ายให้ บรูโน่ เข้าเขตโทษ เปิดให้ เฟร็ด ยิง

ชัยชนะของแมนฯยูไนเต็ดอย่างถล่มทลายเกมแรก น่าจะสร้างความเชื่อมั่นในการเล่นได้เยอะทีเดียว อย่างน้อยบรรยากาศแฟนบอลในโรงละครกว่า 72,000 ช่วยหนุนหลัง

แต่เหนือสิ่งอื่นใด วิธีการโจมตีแดนสาม คือ “ทีเด็ด” ที่เกมนี้ได้จาก ป๊อกบา-บรูโน่

 เชลซีชนะ ตามคาด

ทีมโธมัส ทูเคิล ยังเต็มไปด้วยทีมเวิร์ค แม้ว่าขุมกำลังจะมีสภาพไม่ร้อยเปอร์เซนต์ ทุกคน

นัดนี้เขาส่ง เทรเวอร์ ชาโลบาห์​ ลงยืนเซนเตอร์กับ คริสเตียนเซน และ รือดิเก้อ ส่วนสองวิงแบ๊ก อลอนโซ่ กับ อัสปิลิกวยต้า แดนกลาง จอร์จินโญ่ กับ โควาซิซ ก่อน ส่วนข้างหน้า แวร์เนอร์, พูลิซิซ และ เมานต์

การเจอกับคริสตัล พาเลซ บอลเปลี่ยนโค้ช แต่นักเตะยังชุดเดิมๆ มีเปลี่ยนหน้าก็แค่ เซนเตอร์ได้มาจากเชลซี เกฮี และ มาเตตา กองหน้ายืมจากทีมไมนส์

 1 เดินรถทางเดียว

เชลซี ครองบอลฝั่งเดียว ตามแทกติก เพราะทีมของ ปาทริค วิเอร่า เน้นตั้งรับรอสวนอยู่แล้ว

บอลขึ้นทั้งซ้ายและขวาต่อเนื่อง พาเลซ ตั้งรับโดยไม่ได้สวนกลับอะไรเลย เป็นเชลซีคุมเกมได้ทั้งหมด บางช่วงผ่านบอลไปมาแบบ พาเลซ ไม่เจอบอล เลยต้องตัดฟาวล์​อยู่เรื่อยๆ คราวนี้ไปทำฟาวล์หน้าเขตโทษ เลยเสียฟรีคิก ให้ มาร์กอส อลอนโซ ปั่นเข้าไปอย่างสวยงาม

 2 บอลด้านข้าง 

การเติมเกมด้านข้างของเชลซี ใช้ เมสัน เมานต์ เดินด้านขวา กับ อัสปิลิกวยต้า ส่วนทางซ้าย อลอนโซ่ กับ พูลิซิซ ถือว่ากดให้พาเลซ ตั้งรับตลอดเวลา เหมือนพิงเชือกสู้กับเชลซี อย่างเดียว บอลเป็นของเชลซี ต่อเนื่องและก็ได้ประตูที่สองจาก พูลิซิซ ที่ตามซ้ำบอลจากด้านข้างของ เมานต์ ที่เปิดเข้ามากรอบหกหลา ส่วนลูกสาม ชาโลบาห์ ได้ใจจากเสียงเชียร์ให้ ชู้ตตต เขายิงนอกเขตในครึ่งหลังสุดคม

นี่คือเกมที่เชลซีชนะได้ง่าย ทั้งวิธีการเล่นที่ครองบอลเหนือกว่า และการจบสกอร์ที่เด็ดขาดาทั้งสามลูก เหลือแค่ว่า “แวร์เนอร์” กับการต้องรับบทหน้าเป้า แล้วยังหาโอกาสได้ไม่มากนัก

หาก ลูกากู ฟิตสมบูรณ์แล้ว โธมัส ทูเคิล จะจัดทีมอย่างไร แวร์เนอร์​ จะถูกจับไปยืนด้านข้างหรือว่า หลุดจากตัวจริง

ชัยชนะของเชลซีเกมนี้ได้เพราะ “ทีมเวิร์ค” ที่ลงตัวอยู่แล้ว ขณะที่ พาเลซ ในยุคของ วิเอร่า ดูเหมือนจะยังไม่มีทรงฟุตบอลอะไรที่ชัดเจนมากนัก

คู่ปิดท้ายวันเสาร์ นอริช – ลิเวอร์พูล ในฐานะ “เต็งสาม” จากบริษัทพนันที่ถูกต้องตามกฏหมายของอังกฤษ หลังจาก “น้องใหม่” เบรนฟอร์ด,​วัตฟอร์ด ชนะมาก่อนหน้าแล้ว และทีมเจ้าบ้านมีแพ้ทีมเดียวคือ เบิร์นลีย์ ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับเสียงเชียร์หรือไม่

 1 การกลับมาของ ฟานไดจ์

เจอร์เก้น คล็อปป์​ บอกเรื่องการจัดตัวก่อนเกมนี้ว่า ตำแหน่งเซนเตอร์นั้น ถ้าใช้แล้วจะเปลี่ยนตัวคงไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องมากนัก นั่นคงหมายความว่าหาก ฟานไดจ์ สมบูรณ์แล้ว ถ้าเขาส่งลงนั่นหมายความว่าน่าจะได้เล่นยาวๆ ครบเกม ซึ่งการลงสนามสามนัดในเกมอุ่นเครื่องค่อยเพิ่มเวลาจาก 15, 45, 70 นาที นั่นคงเป็นเหตุผลที่ เขาต้องการส่ง ฟานไดจ์ ลงเล่นตัวจริงเกมแรก ซึ่งก็ต้องเข้าคู่กับ โฌแอล มาติป นั่นเอง

การกลับมาของ ฟานไดจ์ น่าจะเป็นความมั่นใจให้กับทีม แต่จังหวะจะโคนการเล่น ยังมีอ่านเกมพลาดด้วยเหมือนกัน นี่คือเกมที่เขาได้ “แมตช์ ฟิตเนส” เต็มๆ แต่ยังไม่ใช่ ฟานไดจ์ เหมือนที่เราเห็นกันก่อนบาดเจ็บ ด้วยเพราะ นอริช เองก็ได้สวนกลับไม่บ่อยครั้ง ครึ่งแรกมี ครั้งเดียวที่ ปุกกี้ หลุดเดี่ยวยิงติดเซฟ เบ็คเกอร์

ส่วน ซิมิกาส มีพลาดโดน ราชิกา หลอกหนึ่งครั้ง แต่ภาพรวมถือพอใช้ได้ ทั้งการเล่นเกมรุกที่ประสานงานกับ มาเน่ และมาช่วยเกมรับ

 2 แดนกลาง “จัดตามสภาพ”

เกอิตา, อ๊อกซ์เลด แชมเบอร์เลน และ มิลเนอร์ คือสามแดนกลางที่ฟิตที่สุดตอนนี้ แม้อุ่นเครื่องที่ผ่านมา ฮาร์วีย์ เอลเลียต ลงเล่นตลอดก็ตาม แต่นัดนี้ คล็อปป์ เลือก อ๊อกซ์ ลงก่อน ส่วน เฮนโด้, ฟาบินโญ่ (มีชือสำรอง)และติอาโก้ ไม่ฟิตกันเลย ดังนั้นก็ต้องจัดชุดนี้ลงเล่นตามสภาพที่นักเตะมีความฟิตมากสุดในเวลานี้

ส่วนผลงานแดนกลาง แย่งบอลได้ดี แต่การทำเกมรุกไม่เท่าไหร่ เพราะบอลลิเวอร์พูลเน้นด้านข้างจากแบ๊กสองข้างเป็นหลักอยู่แล้ว อีกอย่าง นอริช รับสองชั้นก็ยากอยู่ในการเจาะเข้าไป หากเสียบอลแล้วโดนตลบหลัง

 3 ลูกตั้งเตะ ยังไม่เนี้ยบ

ครึ่งแรกเตะมุม 8 ครั้งทั้ง เทรนต์​และ ชิมิกาส ไม่กดดันนอริชเท่าไหร่ แม้ว่าจะมี ทั้ง มาติป และ ฟานไดจ์ ขึ้นมา ตรงนี้ให้เครดิตการตั้งรับของนอริช เพื่อป้องกันลูกตั้งเตะ มีตัวตาม ฟานไดจ์ คือ สกอต แฮนลีย์ ไม่ให้ได้โอกาสขึ้นโหม่งง่ายๆ แต่ลูกตั้งเตะมีส่วนได้ประตูที่สาม แต่นั่นคือการเตะมุมครั้งที่ 10 บอลหลุดเข้ามาทาง ซาลาห์

 4 ประตูที่ได้ 

มิลเนอร์ ถอนต่ำมาวางบอลออกข้างให้ เทรนต์ ก่อนตวัดให้ ซาลาห์ ซึ่งจับบอลเล่นหลุดเท้า โชคดีไปเข้าทาง โชต้า วิ่งมายิงระยะสิบหลาเข้าไป ถือว่าโชคช่วยเหมือนกัน แต่โชต้าก็ไม่ทิ้งขว้างโอกาสทองให้หลุดลอย ประตูที่ได้นี้ทำกันสี่คน จากแดนตัวเอง

ลูกที่สองบอลบุกมาจากแดนตัวเอง ทำด้านซ้าย ฟีร์มีโน่ ไหลให้ มาเน่ ที่ขยับไปเป็นศูนย์หน้า ยิงแฉลบ ลอยมาเข้าทาง ซาลาห์ ที่จัดการจ่ายเข้ากลางให้ ฟีร์มีโน่ ว่างๆเลย

ยิง 2-0  นีคือประตูที่ 8000 ในฟุตบอลลีกอังกฤษของลิเวอร์พูล ต่อจากแมนฯยูไนเต็ด 8089 ลูก

ส่วนลูกสาม ซาลาห์ เก็บบอลจังหวะสองจากลูกเตะมุมแล้วซัดระยะ 18 หลาเข้าไป

เขาเป็นนักเตะคนแรกของพรีเมียร์ลีกที่ยิงประตูนัดแรกของซีซั่น 5 ฤดูกาลติดต่อกัน

วัตฟอร์ด (3-3) 2017-18

เวสต์แฮม (4-0) 2018-19

นอริช (4-1) 2019-20

ลีดส์ (4-3) 2020-21 “แฮทริก”

นอริช (3-0) 2021-22

 เกมแรกของทั้งสามทีมก็ได้ชัยชนะที่งดงามในแบบที่ต่างกัน

“ปีศาจแดง” ดูดุดัน ลงล็อค และเด็ดขาดในจังหวะสกอร์

เชลซี คุมเกมการเล่นได้หมดจด

ลิเวอร์พูล นั้นนักเตะหลายคนยังไม่เต็มสูบ

แดนกลางยังไม่ใช่ตัวหลักเช่นกัน แต่เก็บสามแต้มได้ไม่ยาก

ฤดูกาลยังอีกยาวไกล…..

การต่อสู้พึ่งเริ่มต้น

มีอะไรให้เจออีกเยอะครับ

   REDDEVILTHAI แมนยู